-
กลับไปหน้าแรกข่าว  หมุนตามทุน : พายุลูกใหม่ รอถล่มใส่อุตฯเหล็กไทย
15 ก.พ. 2017

หมุนตามทุน : พายุลูกใหม่ รอถล่มใส่อุตฯเหล็กไทย

แม้ว่ากรมศุลกากรจะร่วมมืออย่างจริงจับกับ 7 สมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็ก ในการยกระดับประสิทธิภาพการตรวจจับที่ เข้มข้นกับเหล็กนำเข้าเลี่ยงภาษี แต่ก็ใช่ว่าปัญหาของอุตสาหกรรมเหล็กไทย จะหมดไปเสียทีเดียว เพราะยังมีอีกหลายประเด็นที่เป็นปัจจัยลบของอุตสาหกรรมเหล็กของไทย หนึ่งในนั้นก็คือกำลังการผลิตที่เกินกว่าความต้องการของตลาดทั้งที่ปัจจุบัน ทั้งอุตสาหกรรมใช้กำลังการผลิตเพียง 40-50% เท่านั้น และต้นตอของปัญหานอกจากด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็ม ที่แล้ว...ยังมีเรื่องของเหล็กนำเข้า...มาแย่งตลาดอีกด้วย...ซึ่งเหล็กนำ เข้า...ก็มีทั้งที่นำเข้ามาจากจีนแล้วเข้ามาทุ่มตลาดเหล็กในประเทศ และ เหล็กนำเข้าจากชาติอื่นๆ ที่พยายามหาช่องหลบเลี่ยงภาษีและอากรที่ใช้เป็นเครื่องมือปกป้องอุตสาหกรรม ในประเทศ ตัวเลขคร่าวๆ ปี 2559 มีการนำเข้าเหล็กกว่า 5 ล้านตัน คิดมูลค่าเฉียด 6 แสนล้านบาท ตอนนี้กำลังมีพายุลูกใหม่รอเข้ามาถล่มอุตสาหกรรมเหล็กของไทย เรื่องของ เรื่องคือประเทศจีนมีเป้าหมายจะที่จะลดกำลังการผลิตเหล็กในประเทศ 200-300 ล้านตัน ภายในระยะเวลา 4-5 ปีจากนี้...ซึ่งก็เพื่อแก้ปัญหาเหล็กล้นตลาด และลดมลพิษที่เกิดจากโรงงานเหล็กที่ใช้เทคโนโลยีเก่าๆ หรือเตาหลอมที่ไม่ ได้คุณภาพ และตอนนี้ทางการจีนได้เริ่มปฏิบัติลดกำลังการผลิตแล้ว มีการ สั่งปิดโรงงานไปแล้วกว่าร้อยโรงงาน รวมกำลังผลิตกว่า 100 ล้านตัน ดังนั้นโรงงานเหล็กจากจีนเหล่านี้ก็กำลังมองหาแหล่งลงทุนใหม่ ซึ่งไทยเอง ก็คือเป้าหมายหลักที่จะเข้ามาเพราะว่า ไปประเทศอื่นไม่ได้ เนื่องจากเจอ“กำแพง”หลายรูปแบบที่รัฐบาลประเทศนั้นๆ สร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ และการเข้ามาลงทุนในไทย ก็จะ ได้หมดปัญหากับเรื่องการถูกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด(AD) อากรปกป้องฯ (เซฟการ์ด) ด้วย ซึ่งการเข้ามาของโรงงานเหล็กจากจีนเหล่านี้ใช่ว่าจะแข่งกับโรงงานของไทยที่ มีอยู่ปัจจุบันไม่ได้ พวกนี้เขาได้รับเงินชดเชยและเยียวยาจากรัฐบาลจีน เมื่อตอนถูกสั่งปิดโรงงาน ดังนั้นไม่ยากเลยที่จะเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานและ ผลิตเหล็กออกมาขายในราคาต่ำกว่าตลาดได้ พูดง่ายๆ มี“หน้าตัก”มากพอที่จะทุบตลาดได้หลายปี เมื่อคนอื่นตายหมดแล้ว ก็สบายแฮ ไปเลย ครองตลาดได้สบาย

ที่มา : http://www.naewna.com/business/256529

วันที่ 15 ก.พ. 60