ชงกฤษฎีกาตีความ แปลงโรงงานยาสูบ สู่สถานะนิติบุคคล

น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการยาสูบ โรงงานยาสูบ เปิดเผยว่า ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การยาสูบแห่งประเทศไทย พ.ศ.... ที่มีสาระสำคัญกำหนดให้โรงงานยาสูบ ที่ปัจจุบันเป็นรัฐวิสาหกิจ มีสถานะเป็นนิติบุคคล โดยเปลี่ยนชื่อเป็น การยาสูบแห่งประเทศไทย(ยสท.) เพื่อให้มีการพัฒนา มีความคล่องตัว และสามารถประกอบธุรกิจได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งหากโรงงานยาสูบมีสถานะเป็นนิติบุคคล จะทำให้เพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกิจมากขึ้น เช่น รับจ้างผลิตและบรรจุภัณฑ์จากต่างประเทศ ทั้งนี้เนื่องจากที่ผ่านมามีบริษัทหลายประเทศที่ติดต่อโรงงานยาสูบ เพื่อจ้างผลิตและบรรจุภัณฑ์ เช่น เมียนมา จีน สิงคโปร์ แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากติดปัญหาด้านกฎหมายในการผลิตยาสูบ ซึ่งในช่วงที่ยังไม่เป็นนิติบุคคล โดยโรงงานยาสูบได้เตรียมการไว้หมดแล้ว เมื่อกฎหมายเปิดช่อง ก็พร้อมที่จะดำเนินการทันที นอกจากนี้ ญี่ปุ่น และจีน อยากร่วมทุนในการผลิตบุหรี่ แต่ต้องมีเงื่อนไขไม่ผลิตเพื่อขายในประเทศ ต้องผลิตเพื่อการส่งออกเท่านั้น แต่การผลิตต้องเป็นของไทย และใช้ใบยาของไทยอย่างน้อย 70% เพื่อให้เจ้าของยังเป็นของไทย และเพื่อขยายการส่งออกไปยังต่างประเทศ รวมถึงมีแผนขยายผลิตภัณฑ์บุหรี่ไทยส่งออกต่างประเทศมากขึ้น ในขณะเดียวกันโรงงานยาสูบยังมีแผนเปิดตลาดไปยังต่างประเทศ โดยในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560 เตรียมเปิดศูนย์กระจายสินค้าที่สปป.ลาว และในอนาคตจะเปิดที่ฟิลิปปินส์เป็นประเทศต่อไป ซึ่งตั้งเป้าจะเปิดอย่างน้อยปีละ 1 ประเทศ แต่ยังคงให้ความสำคัญกับการจำหน่ายในไทยเป็นตลาดหลัก

ที่มา : http://www.naewna.com/business/255365

วันที่ 6 ก.พ. 60