พาณิชย์อุ้มเหล็กสยามยามาโตะ ย้ำเก็บเซฟการ์ด 31% ถูกต้องแล้ว

นายวันชัย วราวิทย์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมยังคงยืนยันที่จะใช้มาตรการเซฟการ์ดสินค้าดังกล่าวต่อไป แม้ว่าผู้นำเข้าเหล็กภายในประเทศได้ร้องเรียน เพราะคปป.พิจารณาตาม พ.ร.บ.มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น พ.ศ. 2550 และข้อมูลจากทุกภาคส่วนแล้วพบว่าบริษัทเหล็กสยามยามาโตะซึ่งเป็นผู้ผลิตใน อุตสาหกรรมภายในประเทศเพียงรายเดียวได้รับความเสียหายและได้รับผลกระทบจริง โดยหลังจากนี้จะนำสรุปรายงานต่อนายกรัฐมนตรีรับทราบต่อไป ทั้งนี้ ผลการพิจารณาพบข้อมูลว่ามีการนำเข้าเหล็ก H-Beam เจืออัลลอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2557 โดยมีส่วนแบ่งตลาด 1.78% เพิ่มเป็น 9.16% ในปี 2558 และนำเข้าเพิ่มขึ้นปีละกว่า 300% อีกทั้งยังนำเข้ามาในราคาที่ต่ำมาก ซึ่งกระทบต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศ จึงเป็นสิทธิตามที่จะได้รับการปกป้อง ขณะที่การกำหนดให้มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม (มอก.) โดยให้ปั๊มตัวนูนบนเหล็กเป็นไปตามกฎหมาย เพื่อเป็นการรับรองว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยในการนำไปใช้งาน และการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) กับสินค้าเหล็ก H-Beam ไม่เจืออัลลอย ซึ่งเป็นสินค้าเดียวกับที่บริษัท เหล็กสยามยามาโตะผลิตได้เป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ. 2542 และได้ใช้มาตั้งแต่ปี 2545 จะครบกำหนดวันที่ 10 ต.ค. 2560 ที่จะถึงนี้  นอกจาก นี้ยังไม่พบว่ามีการส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศราคาถูกกว่าจำหน่ายในประเทศ เพราะตามที่ถูกออสเตรเลียไต่สวนการทุ่มตลาด ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการขอทบทวน และผลการทบทวนชั้นที่สุด เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2559 ที่ผ่านมาก็ไม่พบว่ามีการทุ่มตลาดแต่อย่างใด

ที่มา : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1486304687

วันที่ 5 ก.พ. 60