นริศ เชยกลิ่น "3 ปีสิงห์เอสเตท จะเริ่มโอนยูนิตแรก"

นายนริศ เชยกลิ่น ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ 90% ยังเหมือนเดิมกับที่เคยแถลงก่อนหน้า บริษัทยืนยันที่จะส่งมอบคุณค่าให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม รวมถึงสังคมและประเทศด้วย โดยกลยุทธ์การพัฒนามีทั้งการซื้อกิจการ รับโอนกิจการ สร้างธุรกิจใหม่ ผนึกพันธมิตรเพื่อการเติบโตยั่งยืนในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะมีตัวอย่างในทุกคำที่ประกาศตัวไว้ว่าเราจะส่งมอบสินค้าที่ดีที่สุด หรือ Best in Class ปีนี้มีคำที่เพิ่มขึ้นมา คือ เน้นตลาดลักเซอรี่ ซูเปอร์ลักเซอรี่, ขยายการเติบโตไปตลาดที่มีศักยภาพ ผมยังมีเป้าหมายเดิม มีรายได้ 20,000 ล้านในปี 2020 วันนี้การลงทุนจะเป็นบันไดไปสู่เป้าหมายด้วยการสร้างสิงห์ เอสเตทให้เป็นแบรนด์ระดับโลก ไม่ใช่ระดับประเทศ ไม่ให้มีขีดจำกัดพรมแดนด้วยการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ควบคู่สร้างองค์กรบรรษัทภิบาลและองค์กรยั่งยืนปีที่แล้วได้รับรางวัล4 ดาวจากไอโอดี ปีนี้พยายามทำให้ได้ระดับ 5 ดาว ในด้านตัวเลขผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี"59 อีบิตด้า โตเกือบ 500 ล้านบาท เมล็ดพันธุ์ที่ลงทุนกำลังแตกกิ่งก้านสาขาความสำเร็จมากขึ้นเรื่อย ๆ ธุรกิจที่อยากเน้น คือ โรงแรม โต 37% สันติบุรี โต 38% พีพีไอส์แลนด์ โต 31% ซื้อโรงแรมในอังกฤษอีก 3 แห่ง จาก 2,800 ห้อง เพิ่มเป็น 3,000 กว่าห้อง, ปรับปรุงโรงแรมที่พีพี วันนี้เป็นห้องใหม่หมด จากเดิมมี 100 กว่าห้องยังสร้างการเติบโตได้ 300 กว่าล้าน ไม่ธรรมดา เรียกว่าทิศทางที่เราไปเราถูกทาง ในด้านธุรกิจสำนักงานมีรายได้ 445 ล้าน ถือเป็นน้องใหม่ (ในเครือ) ที่กำลังงอกงาม

ที่มา : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1485751083

วันที่ 31 ม.ค. 60