-
กลับไปหน้าแรกข่าว  บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท เบอร์ 1 ประเทศไทย
25 ม.ค. 2017

บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท เบอร์ 1 ประเทศไทย

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เปิดเผยว่าจากผลการสำรวจ โครงการที่เปิดใหม่ในปี 2559 จำนวน 459 โครงการในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ถึงที่ตั้งในทุกโครงการที่เปิดใหม่ และไปสำรวจการเปลี่ยนแปลงในการขายและการตลาดทุกรอบไตรมาส ซึ่งถือเป็นการสำรวจที่ครอบคลุมกว้างขวางที่สุด พบว่า บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท มีการเปิดตัวโครงการจำนวนมากที่สุด (ไม่รวมในจังหวัดภูมิภาค) สำหรับ ในรายละเอียดพบว่า บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ยังครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดโดยเปิดตัวโครงการจำนวนมากที่สุดถึง 67 โครงการ รวม 19,943 หน่วย รวมมูลค่า 48,122 ล้านบาท มีสัดส่วนในตลาด 18.0% ในแง่จำนวนหน่วย และ 12.6% ในแง่มูลค่าการพัฒนา ในแต่ละหน่วยขายของบริษัทนี้ มีราคาเฉลี่ย 2.41 ล้านบาท อาจกล่าวได้ว่าบริษัทนี้สร้างที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนโดยเฉพาะประชาชนใน ระดับที่มีรายได้ปานกลาง และปานกลางค่อนข้างน้อยเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังสร้างที่อยู่อาศัยราคาสูงอีกด้วย การ ที่ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท สามารถเป็นเบอร์ 1 ได้นั้น ส่วนหนึ่งเพราะมีการพัฒนาที่ดินหลายทำเล ทำให้กระจายความเสี่ยง สร้างโอกาสที่จะเข้าถึงลูกค้าได้มากมาย ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ บมจ.แลนด์แอนด์เฮาส์ ใช้มาก่อนและสามารถนำหน้า บมจ.บางกอกแลนด์ที่เคยเป็นรายใหญ่ที่สุดแต่พัฒนาเป็นเมืองขนาดใหญ่แทนการ กระจายไปทั่ว อย่างไรก็ตาม บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ยังกระจายการพัฒนาไปแทบทุกระดับราคา ต่างจาก บมจ.แลนด์แอนด์เฮาส์ที่แต่เดิมเน้นเฉพาะบ้านในราคาระดับค่อนข้างสูง-สูง ทำให้มีฐานที่กว้างขวางกว่า และกลายมาเป็นอันดับหนึ่งในที่สุด อาจกล่าว ได้ว่าบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์จำนวนกว่า 50 แห่ง ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ 2/3 ของทั้งตลาดที่เหลืออีก 500 บริษัทครองส่วนแบ่งตลาดเพียง 1/3 เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่มีบริษัทใดที่จะสามารถเป็นผู้ชี้นำตลาดที่ครองส่วนแบ่ง ตลาดเกินครึ่งหนึ่งได้โดยตรง เพราะสัดส่วนทางการตลาดยังไม่สูงมากนัก การแข่งขันยังมีอยู่มาก อย่างไรก็ตามรัฐบาลก็ควรส่งเสริมธุรกิจ SMEs ในวงการพัฒนาที่ดิน เพื่อให้รายย่อยมีโอกาสพัฒนาที่ดินได้มากขึ้นเช่นกัน อาจกล่าว ได้ว่า บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท มีคุณูปการอย่างยิ่งยวดต่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยในประเทศไทย โดยเฉพาะการสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อย และปานกลางค่อนข้างน้อย โดยรัฐบาลไม่ต้องเสียเงินพัฒนาที่ดินเอง แถมยังได้รับภาษีจากบริษัทนี้ และบริษัทนี้ก็ยังสามารถทำให้เกิดการจ้างงานนับพันๆ คน พร้อมกับจ่ายโบนัสที่ดีแก่พนักงานอีกด้วย

ที่มา : http://www.delimirrornew.co.th/?p=17963

วันที่ 25 ม.ค. 60