-
กลับไปหน้าแรกข่าว  "กอบกาญจน์" เร่งสปีดตลาดครุยส์ ดันไทย "โฮมพอร์ต" หนุนอาเซียนขึ้นชั้นเวิลด์คลาส
27 ม.ค. 2017

"กอบกาญจน์" เร่งสปีดตลาดครุยส์ ดันไทย "โฮมพอร์ต" หนุนอาเซียนขึ้นชั้นเวิลด์คลาส

              นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้หารือกับบริษัทเดินเรือครุยส์ยักษ์ใหญ่ 2 บริษัท ผู้ดำเนินธุรกิจเรือสำราญ คือ GentingHong Kong และ Carnival Corporation เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวทางน้ำ (Maritime Tourism) และศักยภาพท่าเรือของไทย ให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มล่องเรือสำราญได้ โดยทั้ง 2 บริษัทต่างเห็นโอกาสและศักยภาพของไทยในการเป็นท่าเรือต้นทางและสิ้นสุด หรือ Home Port ของตลาดเรือสำราญอาเซียน เนื่องจากมีเที่ยวบินจากจีนและอินเดียรองรับการเดินทางเชื่อมต่อจำนวนมาก แต่ยังไม่มีมาตรฐานบริการแก่ผู้โดยสารเรือสำราญที่เพียงพอ ากแนวโน้มดังกล่าวนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯจึงเตรียมหารือกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการพัฒนาท่าเรือพาณิชย์แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีจุดขายสำคัญคือใกล้กรุงเทพฯ เพื่อรองรับตลาดเรือสำราญให้ดีขึ้น รวมถึงแนวทางความเป็นไปได้ในการดึงเอกชนมาลงทุน เนื่องจากยังขาดสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น อาคารผู้โดยสารครุยส์ ขณะที่ฝั่งอันดามัน แม้ภูเก็ตจะมีจุดจอดและท่าเรือสำราญอยู่บ้างแล้ว แต่กระทรวงมองว่าจำเป็นต้องมีท่าเรือที่มีขนาดร่องน้ำลึกรองรับเรือที่มีผู้โดยสารเกิน 3,000 คน โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างผลักดันให้พัฒนาท่าเรือสำราญบริเวณอ่าวมะขาม หลังบริษัท วิน อินเวสต์เมนต์ ชนะการประมูลสัมปทานไปแล้ว ต่อไปศูนย์กลาง (ฮับ) ตลาดการเดินเรือสำราญของอาเซียนจะใหญ่กว่าฮับที่อเมริกาเหนือ หลังนักท่องเที่ยวตลาดนี้ในแถบเอเชียมีแนวโน้มเติบโตสูงมาก ทั้งชาวจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน และอินเดีย ผู้หญิงนิยมเที่ยวเรือสำราญมากขึ้น ประกอบกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเรือสำราญเปลี่ยนไปจากภาพจำเดิม ๆ ที่ต้องเป็นมหาเศรษฐีเท่านั้น ถึงจะล่องเรือสำราญได้ แต่ปัจจุบันค่าใช้จ่ายบนเรือสำราญถูกลง เฉลี่ยอยู่ที่วันละ 100 เหรียญสหรัฐ แต่ภาพลักษณ์หรือสถานะทางสังคมที่ผู้โดยสารได้รับนั้น ยังถือว่าดีมาก โดยปัจจุบันทั่วโลกมีผู้โดยสารเรือสำราญทั้งหมด 24.5 ล้านคน คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 25.5 ล้านคนในปีนี้

ที่มา : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1485408207​