เก็บ"เซฟการ์ด"เหล็กHบีม2ปี 31%พี.อาร์.บางบอนร้องผู้ตรวจ

กระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า ที่ประชุม คปป.ได้พิจารณาข้อร้องเรียนของบริษัทผู้นำ เข้าเหล็กโครงสร้างรูปพรรณเจืออัลลอยหน้าตัดรูปตัวเอชแล้วทุกประการ แต่จากข้อมูลข้อเท็จจริงยังพบว่า การนำเข้าเหล็กชนิดนี้ได้สร้างความเสียหายก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้าย แรง ถือเป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมภายใน จึงได้มีมติใช้มาตรการปกป้องสินค้าเหล็กโครงสร้างรูปพรรณเจืออัลลอยหน้าตัด รูปตัวเอช พิกัด 7228.70.1000 และ 7228.70.9000 จากทั่วโลกเป็นระยะเวลา 2 ปี นับจากออกประกาศในราชกิจจานุเบกษา กำหนดในอัตราร้อยละ 31.43 ของราคา C.I.F.ในปีแรก และอัตราร้อยละ 31.05 ของราคา C.I.F.ในปีที่ 2 ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2560 นายไพรัช กิ่งพุทธพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท พี.อาร์.บางบอน 5 สตีล จำกัด ได้เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมในการดำเนินธุรกิจเหล็กโครงสร้างรีบ ร้อนรูปตัว H ภายในประเทศต่อ พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยทางบริษัท พี.อาร์.บางบอนฯ ระบุว่า การพิจารณาใช้มาตรการปกป้องและตอบโต้ทางการค้าของกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งจะออกมาตรการปกป้องและตอบโต้การนำเข้าเหล็กโครงสร้างรีดร้อนรูปตัวเอช ในวันที่ 28 มกราคม 2560 ถือเป็นมาตรการที่เอื้อต่อการผูกขาดสินค้า ให้บริษัทต่างชาติเพียงรายเดียวคือบริษัท เหล็กสยามยามาโตะ ผูกขาดตลาดมาเป็นเวลานานถึง 25 ปี และอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ดังนั้น ขอให้พิจารณา "สั่งการตรวจสอบที่มาในการออกมาตรการนี้" หรือ "ได้โปรดเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครอง" เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมด้วย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการนี้อาจมิชอบด้วยเจตนารมณ์ของกฎหมาย ทั้ง พ.ร.บ. การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542, พ.ร.บ. มาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

ที่มา : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1485015309

วันที่ 22 ม.ค. 60