-
กลับไปหน้าแรกข่าว  ยุคทอง-ยุคมืดมน ปิโตรเลียมไทย
9 ม.ค. 2017

ยุคทอง-ยุคมืดมน ปิโตรเลียมไทย

สถานการณ์ราคาพลังงานปี 2560 ยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะดำเนินไปอย่างไร โดยหน่วยงานรัฐอย่างกระทรวงพลังงาน "ทวารัฐ สูตะบุตร" ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะเคลื่อนไหวระดับ 42-52 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศไทยมีโอกาสแพงขึ้นจากราคาปัจจุบัน 1-2 บาทต่อลิตร (ปัจจุบันราคาเฉลี่ยกลุ่มเบนซินลิตรละ 25-27 บาทต่อลิตร ดีเซล 26 บาทต่อลิตร) ขณะที่ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) มีระดับราคาประมาณ 400 เหรียญสหรัฐต่อตัน ก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ประมาณ 7.5 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ในช่วง 40 ปีของประเทศไทย (ช่วงปี 2520-ปัจจุบัน) มุ่งสู่การพึ่งพาตนเอง โดยรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนในกิจการกลั่นน้ำมัน เกิดโรงกลั่นน้ำมันทั้งของไทยและต่างชาติ มีการจัดตั้ง บริษัท ท่อส่งปิโตรเลียม จำกัด หรือแทปไลน์ เพื่อขนส่งน้ำมันและผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียมไปยังดอนเมือง สระบุรี ศรีราชา และมาบตาพุด ซึ่งการขนส่งสะดวกขึ้นทำให้การค้าส่งและค่าปลีกน้ำมันของไทยมีความสะดวก มีการแข่งขันเพื่อช่วงชิงตลาดจนถึงปัจจุบัน และให้ความสำคัญกับค่าการกลั่น หรือกำไร ซึ่งทุกค่ายต้องบริหารต้นทุนให้เหมาะสม และปัจจุบันยิ่งประสบปัญหาการสร้างความมั่นคงพลังงาน เพราะจนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่สามารถเดินหน้านโยบายเปิดประมูลสัมปทานปิโตรเลียมใน 2 แหล่งสำคัญที่มีสัดส่วนก๊าซธรรมชาติมากที่สุดของประเทศ คือ แหล่งเอราวัณ ของเชฟรอน และแหล่งบงกช ของ ปตท.สผ. ซึ่งจะหมดอายุสัมปทานช่วง 2564-2565 รวมทั้งนโยบายเปิดให้สำรวจและผลิตปิโตรเลียมครั้งที่ 21 เนื่องจากการปรับปรุงกฎหมายหลัก 2 ฉบับ คือ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียม และร่างแก้ไข พ.ร.บ.ภาษีปิโตรเลียม ยังไม่ผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

ที่มา : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1483968345

วันที่ 9 ม.ค. 60