-
กลับไปหน้าแรกข่าว  ประเทศอาเซียนเจริญกันใหญ่แล้ว ไทยทำไรอยู่
25 พ.ย. 2016

ประเทศอาเซียนเจริญกันใหญ่แล้ว ไทยทำไรอยู่

ดร.โสภณ เพิ่งเดินทางกลับจากอินโดนีเซีย เจอผู้รู้ด้านอสังหาริมทรัพย์ที่นั่น ซึ่งก็ใกล้ชิดกับทั้งสิงคโปร์และมาเลเซียด้วย อีกทั้งผมยังเป็นกรรมการสมาคมอสังหาริมทรัพย์ในอาเซียน จึงได้มีโอกาส “เปิดหูเปิดตา” หาความจริงบ้าง ถ้าเราฟังแต่ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รอง นายกฯ ท่านก็จะพูดว่า การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจไทย หรือ GDP ดีกว่าสิงคโปร์ หรือเกาหลี ผมยกให้อีกสองประเทศคือญี่ปุ่นและบรูไนด้วย ที่ประเทศเหล่านี้เจริญน้อยกว่าไทยนั้น พื้นฐานสำคัญก็คือ เขาเป็นประเทศที่ร่ำรวยแล้ว ประเทศระดับนี้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจึงย่อมเชื่องช้ากว่าไทยบ้าง ประจวบกับราคาน้ำมันตกต่ำ ทำให้ประเทศบรูไน ก็ซวดเซไปด้วย สิงคโปร์ก็มาในทำนองเดียวกัน แต่สิ่งที่ ดร.สมคิดกลับไม่พูดก็คือ เศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคอาเซียนทั้งผอง 8 ประเทศ (ไม่รวมสิงคโปร์และบรูไน) ล้วนมีอัตราเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี/สูงกว่าไทยทั้งสิ้น เขาเติบโตกันใหญ่แล้ว ถ้าวันดีคืนร้ายประเทศเหล่านี้หายใจรดต้นคอไทย หรือเกิดแซงหน้าไทยขึ้นมา ไทยจะทำอย่างไร เราจะอยู่กันอย่างไร ในสมัยรัชกาลที่ 5 ไทยเจริญพอๆ กับญี่ป่น มาเลเซียเจริญน้อยกว่าไทย ตนกูอับดุลรามาน อดีตนายกฯ มาเลเซียยังมาเรียนหนังสือที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ สมัยนั้นสิงคโปร์ยังเป็นวุ้น ในสมัยรัชกาลที่ 8 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เกาหลียังเป็นประเทศด้อยพัฒนากว่าไทย ตอนนี้ประเทศเหล่านี้รวมทั้งมาเลเซียก็แซงหน้าเราไปแล้ว นี่ถ้าเกิดอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาทัดเทียมไทยขึ้นมา หรือเกิดลาว เขมร เวียดนาม เมียนมา มายืน “หายใจรดต้นคอ” ไทยขึ้นมา คนไทยเราคง “ตายหยังเขียด” ยิ่งเศรษฐกิจตกต่ำ ประเทศก็ยิ่งจะมีความแตกแยก ดร.โสภณ ไปกรุงจาการ์ตาคราวนี้ ได้พบผู้บริหารสำนักงานส่งเสริมการลงทุนของอินโดนีเซีย ปรากฏว่าเขาส่งเสริมการลงทุนกันใหญ่ ให้ตัวแทนแต่ละกระทรวงมานั่งที่สำนักงานเลย มีอะไรก็จะได้อนุมัติแบบรวดเดียวจบกันตรงนั้นเลย และบังเอิญผมไปพบผู้บริหารบริษัททำเหมืองรายใหญ่ที่สุดโดยเฉพาะผลิตทองคำได้ มากที่สุดในอินโดนีเซียมาด้วย ชื่อบริษัทแอนทัม (www.antam.com) ที่นั่นเขาทำเหมืองทองคำกันเป็นล่ำเป็นสัน ก็คงมีข่าว “ดรามา” เรื่องมลพิษเหมืองทองคำบ้าง แต่รัฐบาลที่นั่นก็หาทางแก้ไข ไม่ใช่ไปปิดเหมืองทองคำแบบที่พิจิตร รัฐบาลอินโดนีเซียส่งเสริมการลงทุน แต่ของไทยกลับปิดเหมืองทองคำที่ออสเตรเลียมาลงทุน ทั้งที่ชาวบ้านที่นั่นเกือบ 80% เห็นว่าควรให้อยู่ต่อ (bit.ly/1Y3UkDE) ในไทยเรากลับปล่อยให้ดรามากันโดยไม่พิสูจน์ เช่น บอกว่าพืชผักแถวใกล้เหมืองมีมลพิษ ทั้งที่ชาวบ้านสามารถปลูก “ผักสวนครัวรั้วกินได้” กันตลอด น้ำดื่มที่ผลิตรอบเหมืองก็สามารถดื่มได้ ที่สำคัญไม่มีคนตายเพราะเหมืองทองคำ ยกเว้นการโพนทะนา ถ้าขืนบ้านเมืองเราเป็นแบบนี้ แล้วเขาหนีไปลงทุนยังประเทศเพื่อนบ้านกันหมด ไทยจะเป็นอย่างไร

ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/639543

วันที่ 25 พ.ย. 59