-
กลับไปหน้าแรกข่าว  ไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์อิหร่านกันไหม
14 ต.ค. 2016

ไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์อิหร่านกันไหม

พอพูดถึงอิหร่าน หลายท่านยังนึกถึงซาอุดิอารเบียหรืออาหรับ ซึ่งเป็นคนละสายกัน หลายท่านนึกถึงการสู้รบในซีเรีย เลบานอน หลายท่านนึกถึงอิรัก แต่จริงๆ อิหร่านอาจมีเรื่องเขย่าโลกคือการปฏิวัติอิสลามโดยอิหม่ามโคไมนีเมื่อปี 2522 ที่เลิกระบอบกษัตริย์ และการ (ถูกหาว่า) พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ แต่ไม่ได้ข่าวการส่งออกการก่อการร้าย เว้นแต่การข่มขู่อย่างแข็งกร้าวต่อผู้ที่โจมตีศาสนาอิสลาม เป็นต้น จะเห็นได้ว่าอิหร่านมีขนาดประเทศใหญ่เป็น 3 เท่าของไทย มีขนาดที่ดินทำกินในสัดส่วนที่น้อยกว่าไทยมาก หากคิดเป็น แต่หากคิดเป็นปริมาณที่ดินทำกินก็ใกล้เคียงกับไทย เราอาจนึกไม่ถึงว่าเขาก็สามารถปลูกข้าว ข้าวโพด หรือสินค้าเกษตรอื่น ๆ ได้ ในอนาคตหากมีการพัฒนาเทคโนโลยีการเพาะปลูกแบบอิสราเอล น่าจะเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ก็ว่าได้ อิหร่านมีประชากรมากกว่าไทยคือมีถึงราว 81 ล้านคนในขณะที่ไทยมี 68 ล้านคน เศรษฐกิจหลักของอิหร่านก็อยู่ที่การส่งออกน้ำมัน ในขณะที่ราคาน้ำมันลดต่ำลงลงทั่วโลก และถูกสหรัฐอเมริกาแซงชั่นกรณีนิวเคลียร์ จึงทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศปั่นป่วน แม้ขนาดเศรษฐกิจอิหร่านจะใหญ่กว่าไทย มีรายได้ประชาชาติต่อหัว สูงกว่าไทย (12,800 ต่อ 9,900 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อปีระหว่างอิหร่านและไทย) อัตราการเติบโตต่อปีก็ราว 4.2% และ 4.7% ในปี 2559-2560 (goo.gl/999dA0 สูงกว่าไทย) อย่างไรก็ตามความไม่เท่าเทียมกันมีสูง มีอัตราว่างงานสูงถึง 16% และมีประชากรต่ำกว่าเส้นความยากจนถึง 19% และที่สำคัญอัตราเงินเฟ้อสูงมากถึง 42% เลยทีเดียว เงินเฟ้อสูงขนาดนี้ส่งผลให้ผู้มีรายได้สูงหนีไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น รัฐบาลก็พยายามแก้เกมด้วยการเปิดประเทศมากขึ้น มีการตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษถึง 6 แห่ง แม้ว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษเหล่านี้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์โดยตรง แต่ก็เกี่ยวเนื่องมาก เพราะเมื่อมีนักลงทุนแห่เข้าไปมาก ก็จะทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยของนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งคนท้องถิ่นที่เข้าไปทำงานในเขตเศรษฐกิจเหล่านี้ โอกาสการเติบโตจึงมีอยู่ไม่น้อย อย่างไรก็ตามในปี 2559 นี้โดยเฉพาะในปีหน้า สถานการณ์น่าจะดีขึ้นบ้าง ในเดือนพฤษภาคม 2559 มีการซื้อขายที่อยู่อาศัย 15,800 หน่วย เพิ่มขึ้น 8% ทั้งที่ในช่วงตกต่ำ ตกลงมาเพียงเดือนละ 7,000 หน่วย และในช่วงบูม มีการซื้อขายกันถึง 20,000 หน่วยต่อเดือน นี่เป็นสัญญาณการฟื้นตัวประการหนึ่ง และนับแต่เดือนมิถุนายน 2558 รัฐบาลก็ออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ใหม่ด้วยการให้กู้ซื้อบ้าน ณ อัตราดอกเบี้ยเพียง 14% แต่ผู้ซื้อบ้านต้องฝากเงินให้ได้จำนวนหนึ่งก่อนที่จะซื้อบ้านภายหลังจาก 1 ปีที่เริ่มฝากเงิน

ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/639215

วันที่ 14 ต.ค. 59