-
กลับไปหน้าแรกข่าว  สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศสิงคโปร์ 2565
12 เม.ย. 2022

สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศสิงคโปร์ 2565

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศสิงคโปร์ช่วงครึ่งปีแรกนี้นับเป็นโอกาสของผู้ซื้อตัวจริง หลังรัฐออกมาตรการควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์ (Cooling Measure) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะฟองสบู่แตก เนื่องจากที่ผ่านมาราคาอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้นจากอุปสงค์ของคนในประเทศและชาวต่างชาติ ในขณะที่อุปทานน้อยเนื่องจากมีหน่วยขายเปิดใหม่ไม่มากนัก ทำให้ราคาซื้อและเช่าที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาตรการที่ออกมานี้จะทำให้การซื้อเพื่อเก็งกำไรลดลง และคาดว่าจะทำให้ราคาขายอสังหาฯ ปรับตัวลดลงในช่วงครึ่งปีแรก จึงเป็นโอกาสของผู้ซื้อตัวจริงในช่วงนี้ ตลาดที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์ในปี 2564 เติบโตอย่างร้อนแรง เนื่องจากยอดซื้อที่อยู่อาศัย และความต้องการเช่าพุ่งสูงขึ้น ในขณะที่การก่อสร้างที่อยู่อาศัยแล้วเสร็จค่อนข้างเงียบเหงาตั้งแต่ปี 2561 และยิ่งชะลอตัวลงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2564 ทำให้มีอุปทานในตลาดน้อยกว่าอุปสงค์ ซึ่งความต้องการเช่านี้เกิดจากแรงงานต่างชาติที่มีฝีมือ (Skilled worker) ซึ่งต้องอาศัยอยู่ในสิงคโปรนับตั้งแต่เกิดโควิด และเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นก็เริ่มมีจำนวนแรงงานต่างชาติกลับเข้ามาอยู่ในสิงคโปร์มากขึ้นอีกด้วย จากความต้องการที่สูงขึ้นส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยแนวราบโดยรวมเพิ่มขึ้น 8 % ปีต่อปี ในปี 2564 เทียบกับ 1.9% ปีต่อปี ในปี 2563 เนื่องมาจากที่อยู่อาศัยแนวราบที่เปิดตัวใหม่ซึ่งมีราคาสูงขึ้น 14.8% ปีต่อปี อยู่ที่ 2,247ดอลลาร์สิงคโปร์/ตารางฟุต (580,476 บาท/ตารางเมตร) ส่วนที่อยู่อาศัยแนวราบมือสองเติบโต 7.6% เป็น 1,414 ดอลลาร์สิงคโปร์/ตารางฟุต (365,284 บาท/ตารางเมตร) ราคาบ้านมือหนึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าภายในเวลา 10 ปี (ช่วงปี 2553 – 2564) โดยราคาที่อยู่อาศัยแนวราบมือหนึ่งเติบโตจาก 1,146ดอลลาร์สิงคโปร์/ตารางฟุต (296,051 บาท/ตารางเมตร) ในปี 2553 เป็น 2,247ดอลลาร์สิงคโปร์/ตารางฟุต (580,476 บาท/ตารางเมตร) ในปี 2564 ในขณะที่ที่อยู่อาศัยแนวราบมือสองเติบโตราว 74% ในรอบ 10 ปี จาก 811ดอลลาร์สิงคโปร์/ตารางฟุต (209,509 บาท/ตารางเมตร) ในปี 2553 เป็น 1,414 ดอลลาร์สิงคโปร์/ตารางฟุต (365,284 บาท/ตารางเมตร) ในปี 2564
ที่มา : theleaderasia.com/?p=15415