บุรีรัมย์ พลิกโฉมแดนเซราะกราว(1)เศรษฐกิจติดจรวดโตสวนกระแส
ปัจจุบันผู้คนคงนึกภาพตามได้ยากขึ้นสำหรับคำกล่าว "บุรีรัมย์ตำน้ำกิน" ที่บ่งบอกถึงความแร้นแค้นของจังหวัดในอีสานใต้แห่งนี้ เพราะในช่วงเวลาเพียง 4 ปี "บุรีรัมย์" ผงาดขึ้นมาเป็นจังหวัดที่มีชื่อชั้นอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย จากการมุ่งมั่นพัฒนาสู่เมือง "สปอร์ตซิตี้" ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญยิ่งที่ทำให้เศรษฐกิจของเมืองนี้พลิกโฉมเติบโตมากอย่างผิดหูผิดตา หลังจากที่บุรีรัมย์เริ่มเปลี่ยนตัวเองเป็นเมืองแห่งกีฬาในปี 2554 เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เศรษฐกิจของเมืองคึกคักขึ้นอย่างมาก โดยจากรายงานของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่า ในปี 2553 บุรีรัมย์มีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด มูลค่า 61,912 ล้านบาท และมีรายได้ต่อหัวประชากร 48,587 บาท ขณะที่ปี 2554 ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 67,353 ล้านบาท และรายได้ต่อหัวประชากร 52,982 บาท ในแง่ของการลงทุนต้องยอมรับว่า โครงการก่อสร้างสนามกีฬาทั้ง 2 สนาม โดยสนามไอ-โมบาย สเตเดียม หรือธันเดอร์ คาสเซิล สเตเดียม และสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (Chang International Circuit : CIC) เป็นหัวหอกที่มาจุดพลุการลงทุนให้ธุรกิจอื่น ๆ ตื่นตัว ล่าสุด "เนวิน ชิดชอบ" ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงความสำเร็จตามโรดแมปการปลุกปั้นเมืองฮับสปอร์ตเอ็นเตอร์เทนเมนต์เอเชียแห่งนี้ว่า ปัจจุบันบุรีรัมย์มีสนามฟุตบอลและสนามแข่งรถ ซึ่งถือเป็นแม็กเนตสำคัญที่ดึงดูดคนเข้ามาในบุรีรัมย์ และทำให้บุรีรัมย์สามารถกลายเป็นเมืองพักได้ในที่สุด เศรษฐกิจเมืองบุรีรัมย์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่พัก โรงแรมที่เพิ่มขึ้นกว่าพันห้องรวมทั้งร้านอาหารที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 100 ร้าอีก เช่นเดียวกับ "ยุทธชัย พงศ์พณิช" รองนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ ที่กล่าวว่า ที่ผ่านมาเศรษฐกิจในเมืองคึกคักขึ้นมาก โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ประเภทอพาร์ตเมนต์ รองรับกลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันการลงทุนหลัก ๆ จะอยู่บริเวณถนนเศรษฐกิจหลักของจังหวัด คือ บุรีรัมย์-นางรอง ตำบลอิสาณ ซึ่งเป็นถนนที่มีมูลค่าที่ดินแพงที่สุดในขณะนี้ ปัจจุบันมีร้านค้าปลีกรายใหญ่จากส่วนกลาง อาทิ บิ๊กซี โฮมโปร โกลบอลเฮ้าส์ เข้ามายึดหัวหาดเรียบร้อย และห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เครือเซ็นทรัลก็จะเปิดในเร็ว ๆ นี้
ที่มา : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1434957652
วันที่ 24 มิถุนายน 2558