ขน 8สนามบิน-ท่าเรือ-ทางด่วน ตั้งอินฟราฯฟันด์ระดม3แสนล้าน

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจกระทรวงคมนาคมจัดตั้งคณะทำงานศึกษาตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรืออินฟราสตรักเจอร์ฟันด์ เช่น บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อพิจารณาแนวทางและรูปแบบความเป็นไปได้ และติดตามความคืบหน้าร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการลงทุนขนาดใหญ่ นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี รองปลัดกระทรวงคมนาคม ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ในฐานะประธานคณะทำงาน เปิดเผยว่า การประชุมร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯขณะนี้ยังไม่สามารถระบุโครงการที่จะเข้าร่วมอินฟราฯฟันด์ได้ อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด เบื้องต้นหน่วยงานที่จะนำโครงการมาเข้ากองทุนได้จะต้องมีรายได้ของตัวเองซึ่งโครงการที่พอจะเข้าข่าย รวมทั้งระยะเวลาการจัดตั้งกองทุนซึ่งใช้เวลานานประมาณ 10 ปี แนวทางจะมีการนำรายได้จากสนามบิน 2 แห่ง คือ ภูเก็ตกับดอนเมือง มาจัดตั้งกองทุน โดยมีต้นทุนการเงิน 5-6% คาดว่าจะย่นระยะดำเนินโครงการจากเดิม 7-8 ปี เหลือเพียง 2-3 ปี ในกรณีสามารถจัดหาแหล่งเงินทุนได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ร.ฟ.ท.มีโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายแอร์พอร์ตลิงก์เชื่อมสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง ระยะทาง 21.80 กิโลเมตร เงินลงทุน 31,103 ล้านบาท จะนำกระแสรายได้จากแอร์พอร์ตลิงก์มาตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาส่วนต่อขยาย หรืออีกทางเลือกคือระดมทุนจากกองทุนพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ, โครงการรถไฟทางคู่ การทางพิเศษฯมีแผนก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N1, N2, N3 ระยะทาง 40.9 กิโลเมตร กรมทางหลวงมีแผนลงทุนโครงการมอเตอร์เวย์ใหม่หลายสายข้อเสนอคือนำรายได้ค่าธรรมเนียมผ่านทางของมอเตอร์เวย์สายปัจจุบันมาระดมทุนผ่านกองทุน สำหรับรฟม.แหล่งข่าวกล่าวว่า ไม่มีโครงการที่จะสามารถนำมาจัดตั้งอินฟราฯฟันด์ได้ ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินที่เปิดให้บริการ เนื่องจากมีสัดส่วนผลตอบแทนทางการเงินเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วยังติดลบ จึงไม่สามารถนำมาจัดตั้งกองทุนรวมได้

ที่มา : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1424099490

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2558