-
กลับไปหน้าแรกข่าว  ไม่กล้าออกภาษีที่ดินเพราะกลัวคนรวยเดือดร้อน
10 ก.ค. 2018

ไม่กล้าออกภาษีที่ดินเพราะกลัวคนรวยเดือดร้อน

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไม่ได้ทำให้คนจนเดือดร้อนเพราะถ้าจนจริงๆ ก็ไม่มีสมบัติอะไร แต่ถ้าเป็นคนชั้นกลาง ชาวบ้านทั่วไปก็ไม่เดือดร้อน ลองดูอย่างภาษีรถจักรยานยนต์เก่าสักคันราคา 30,000 บาท ต้องเสียค่าตรวจสภาพ (60 บาท) ค่า พรบ.ประกันรถจักรยานยนต์ (330 บาท) และภาษี (100 บาท) รวมเป็นเงินราว 490 บาท หรือ 1.6% ของราคารถ ก็ไม่เห็นมีใครบ่นเลย ดังนั้นถ้าเรามีห้องชุดราคาถูกๆ 500,000 บาท แต่ราคาประเมินราชการมักจะต่ำกว่าราคาซื้อขายจริง สมมติว่าต่ำกว่า 20% เป็นเงิน 400,000 บาท หากสมมติต้องเสียภาษี 0.5% ก็จะเสียเพียง 2,000 บาท (หรือเดือนละ 333 บาท) พอๆ กับค่าจัดเก็บขยะ แต่ตามร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบอกว่า ไม่ต้องเสีย แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนไปพัฒนาประเทศ ทางออกที่ถูกบิดเบือนก็คือการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งกรณีนี้แม้แต่ผู้ไม่มีบ้านและที่ดิน ก็ต้องเสียภาษีกันถ้วนหน้า เพราะบังคับเก็บกับประชาชนผู้บริโภคโดยตรง แต่ต่อนายทุน พวกเขาก็สามารถผลักภาระภาษีได้ ในต่างประเทศ เขาจัดเก็บภาษีนี้ที่ 1-3% ของมูลค่า เช่น บ้านในสหรัฐอเมริกาหลังหนึ่งราคา 10 ล้านบาท ก็ต้องเสียภาษีปีละ 200,000 บาท (สมมติอัตรา 2%) ราคาประเมินของทางราชการกับราคาตลาดก็ใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก เราซื้อบ้านไว้แล้ว หากไม่ไปอยู่ก็ต้องเสียภาษี จะอ้างว่าตนไม่ได้ใช้งานไม่ได้ ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกับการจัดเก็บค่าส่วนกลางในชุมชนนั่นเอง ภาษีนี้เก็บมาเพื่อใช้พัฒนาท้องถิ่นโดยตรง โดยอาจนำมาใช้พัฒนาสาธารณูปโภค สาธารณูปการ การศึกษาให้ทันความต้องการของท้องถิ่น และเมื่อท้องถิ่นได้รับการพัฒนา มีสวัสดิภาพที่ดีขึ้น มูลค่าทรัพย์สินของเราก็จะยิ่งเพิ่มพูน ถ้าเราเสียภาษีปีละ 0.5% แต่ราคาบ้านเพิ่มขึ้น 3% ต่อปี ก็เท่ากับการยิ่งให้ ยิ่งได้ มีแต่ได้ไม่มีเสีย แต่ถ้าเป็นการเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 10% ภาษีนี้จะกระทบทุกฝ่าย ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะไม่กระทบต่อวงการพัฒนาที่ดิน ผู้ประกอบการก็กำไรปีละ 20% สุทธิอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ ยิ่งกำไรสูงมาก ราคาค่าก่อสร้างอาคารก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น ราคาที่ดินก็ขึ้นเฉพาะใจกลางเมืองหรือบริเวณที่มีรถไฟฟ้า การใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนี้จึงไม่ทำให้นักพัฒนาที่ดิน "ขนหน้าแข้งร่วง" แต่อย่างใด ผู้ซื้อบ้านก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อภาษีที่จัดเก็บน้อยแต่ได้เพิ่มมูลค่า
ที่มา : www.landactionthai.org/land/index.php?option=com_content&view=category&id=87&Itemid=546