-
กลับไปหน้าแรกข่าว  พ.ร.บ.อีอีซี กับศักราชใหม่ของการขายชาติ
17 พ.ค. 2018

พ.ร.บ.อีอีซี กับศักราชใหม่ของการขายชาติ

เมื่อวันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม 2561 พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 (10 พฤษภาคม) ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว มาชำแหละ พรบ.ฉบับนี้ว่าเป็นการปูทางสู่ศักราชใหม่ของการขายชาติอย่างแท้จริงหรือไม่ มาตรา 6 ให้พื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรีและระยองและพื้นที่อื่นใดที่อยู่ในภาคตะวันออกที่กำหนดเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาเป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ข้อแย้ง  1. แสดงว่าไม่ได้จำกัดเฉพาะ 3 จังหวัดตามที่โฆษณาแล้ว  2. ต่อไปลามไปทั้งภาคตะวันออก รวมถึงสระแก้ว ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด โดยไม่ต้องตราเป็นพรบ.อีกต่อไป 3. และต่อไปคงลามไปทั่วประเทศโดยเฉพาะกรณีให้ต่างชาติเซ้งที่ดินได้ 99 ปี ขีดความสามารถของไทยก็ด้อยกว่าเฉพาะสิงคโปร์และมาเลเซียเท่านั้น  ไม่ต้องให้ต่างชาติเช่าที่ 99 ปีเลย มาตรา 36 คณะกรรมการนโยบายโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีมีอํานาจให้สํานักงานเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินที่สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้ ให้อํานาจของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นอํานาจของคณะกรรมการนโยบาย ข้อแย้ง แสดงว่าเกษตรกรผู้ที่ถือครองที่ ส.ป.ก.4-01 ก็จะขาดความมั่นคงในการถือครองที่ดินแล้ว มาตรา 39 เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศไปสู่การใช้เทคโนโลยีขั้นสูง สร้างนวัตกรรม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศในด้านต่าง ๆ คณะกรรมการนโยบายจะประกาศกำหนดจากอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้งหมดหรือบางส่วน หรืออุตสาหกรรมอื่นนอกเหนือจากอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยอาจรวมถึงอุตสาหกรรมการบริการ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการจัดประชุม หรืออุตสาหกรรมอื่นใดด้วยก็ได้แต่อย่างน้อยต้องประกอบด้วยอุตสาหกรรมด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้ ข้อแย้ง อุตสาหกรรมบริการ ท่องเที่ยว จัดประชุม ฯลฯ มันเกี่ยวกับเทคโนโลยีชั้นสูงและสิ่งแวดล้อมตรงไหน คนไทยก็ทำได้ด้วยดีอยู่แล้ว นี่เท่ากับอ้างเพื่อหาทางให้ต่างชาติมา “ฆ่า” อุตสาหกรรมไทยโดยเฉพาะใช่หรือไม่ นี่แสดงว่ารัฐจะกำหนดอุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้อีก พวกต่างชาติจะพาเหรดกันมายึดประเทศไทยแล้ว ส่วนที่อ้างเรื่องยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ การบินและโลจิสติกส์ ดิจิทัล การแพทย์ครบวงจร ก็ไม่ต้องไปไกลถึงภาคตะวันออก ตั้งในนิคมอุตสาหกรรมใกล้ๆ ก็ได้ ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณไปมหาศาลแบบ “ขี่ช้างจับตั๊กแตน” แบบนี้ บางท่านจึงอาจดูคล้ายกับว่าศักราชการขายชาติที่แท้ให้กับคนต่างชาติกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้วด้วย พ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่จะเป็นจริงหรือไม่ ก็อยู่ที่คนไทยต้องพิจารณา ไทยไม่มีความจำเป็นต้องไปทำแบบนี้เลย ต่างชาติก็ไม่มีใคร “ขายชาติ” กันถึงขนาดนี้ เราทำชาติให้มีอารยะ มีเลือกตั้ง คนก็แห่กันมาลงทุนแบบที่ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียและเมียนมา

ที่มา : https://prachatai.com/journal/2018/05/76952

วันที่ 17 พ.ค. 61