-
กลับไปหน้าแรกข่าว  จุดเปราะบางที่อันตรายของธุรกิจที่อยู่อาศัยไทย
7 ก.พ. 2018

จุดเปราะบางที่อันตรายของธุรกิจที่อยู่อาศัยไทย

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอเตท แอฟแฟร์ส เปิดเผยว่า ณ สิ้นปี 2560 มีหน่วยที่อยู่อาศัยที่รอการขายอยู่ 195,227 หน่วยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพิ่มขึ้นกว่าการสำรวจเมื่อครึ่งแรกของปี 2560 นับหมื่นหน่วย  นี่แสดงว่าจำนวนรอการขายเพิ่มขึ้นชัดเจน  อย่างไรก็ตามจำนวน 195,227 หน่วยนี้ ไม่ใช่ว่าขายไม่ออก  แต่เพียง ณ วันที่สำรวจยังไม่ได้มีผู้ซื้อ  บางส่วนก็เพิ่งเปิดตัวไม่นาน เป็นต้น  แต่ประเด็นสำคัญก็คือ ที่กำลังรอขายกันอยู่ 195,227 หน่วยนี้ สร้างเสร็จก่อนปี 2560 เพียง 11,394 หน่วย หรือ 9%  ที่สร้างเสร็จในปี 2560 มีอีก 16,802 หน่วยหรือ 9% ทั้งหมดนี้อาจถือได้ว่าสร้างเสร็จก่อนขาย ซึ่งรวมกันมีเพียง 15% เท่านั้น  ส่วนมากแล้วเป็นการขายก่อนสร้างแทบทั้งสิ้นถึง 85%  โดยคาดว่าอีก 42% จะสร้างเสร็จภายในปี 2561 แต่ยังมีอีก 42% ที่ยังต้องรอไปถึงปี 2562-3 ซึ่งไม่แน่ว่าจะได้สร้างเสร็จตามที่วางแผนไว้หรือไม่ หากพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่า กลุ่มบ้านเดี่ยวและบ้านที่รวมกันถึง 26% ของทั้งตลาด มีหน่วยขายที่สร้างเสร็จแล้วก่อนหน้าหรือ ณ สิ้นปี 2560 มีรวมกันเพียง 11% ที่เหลือยังรอสร้างอยู่เลย  แสดงว่าทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด เป็นกลุ่มที่ต้องจับตามองมากเป็นพิเศษ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งทาวน์เฮาส์ที่มีสัดส่วนถึง  32% ของทั้งตลาด มีหน่วยที่สร้างเสร็จแล้วมีเพียง 7% เท่านั้น ที่เหลือเกือบทั้งหมดยังรอการก่อสร้างอยู่เลย โชคดีที่อาคารชุดที่มีสัดส่วนถึง 39% ของทั้งหมดมีห้องชุดที่แล้วเสร็จและรอการขายอยู่ถึง 21%  ส่วนตึกแถว ก็สร้างเสร็จแล้วถึง 30% เลยทีเดียว ที่ผ่านมาบริษัทมหาชนครองส่วนแบ่งในตลาดถึงเกือบ 80% พัฒนาแบบปูพรม โดยอาศัยหุ้นกู้ แทบไม่ต้องใช้บริการสินเชื่อของสถาบันการเงิน  ด้วยต้นทุนทางการเงินที่ต่ำกว่ากู้สถาบันการเงิน (จาก 6% เหลือ 3%) จึงทำให้พัฒนาโครงการต่าง ๆ ได้มาก  ทำให้ราคาหุ้นในตลาดของบริษัทมหาชนพุ่งสูงขึ้นด้วย เนื่องจากมีผลงานที่ดีมาอย่างต่อเนื่องนั่นเอง อย่างไรก็ตามในความเป็นจริง โอกาสจะสร้างที่อยู่อาศัยจำนวนมากมายอย่างต่อเนื่องก็อาจเป็นไปไม่ได้  หากในวันข้างหน้า การตอบรับของตลาดน้อยลง การรับรู้รายได้ก็อาจลดลง และหากชะลอตัวจนไม่สามารถใช้หุ้นกู้ได้ตามกำหนด ก็อาจทำให้ตลาดประสบปัญหาได้เช่นกัน  ข้อนี้ผู้ประกอบการ สถาบันการเงิน และส่วนราชการด้านการวางแผน การดูแลตลาดที่อยู่อาศัย และอื่น ๆ ควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ

ที่มา : http://consmag.com/th/news/33965-%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2

วันที่ 7 ก.พ. 61