-
กลับไปหน้าแรกข่าว  ครอบครองปรปักษ์: เลิกกฎหมาย 'ทุเรศ' นี้ได้แล้ว
31 ต.ค. 2017

ครอบครองปรปักษ์: เลิกกฎหมาย 'ทุเรศ' นี้ได้แล้ว

การครอบครองปรปักษ์ หมายถึง การที่บุคคลได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของผู้อื่นโดยการครอบครองตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ซึ่งได้บัญญัติว่า “บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาห้าปีไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์” การที่บุคคลจะได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์จะต้องปรากฏว่า ทรัพย์สินนั้นเป็นทรัพย์สินของผู้อื่นที่เจ้าของจะต้องมีกรรมสิทธิ์ โดยเฉพาะที่ดิน  ถ้าเป็นการครอบครองในฐานะผู้เช่า หรือผู้อาศัยไม่ได้ครอบครองโดยมีเจตนาเป็นเจ้าของก็ไม่เข้าองค์ประกอบที่จะได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ และการครอบครองปรปักษ์จะนำไปใช้แก่ทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินไม่ได้ เพราะต้องห้ามตามมาตรา 1306 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวมทั้งจะนำไปใช้กับที่ธรณีสงฆ์หรือที่วัด ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ไม่ได้ด้วย สิ่งที่ควรปรับปรุงใหม่ ก็คือ 1. ยกเลิกการครองครองปรปักษ์ เพื่อจะไม่เกิดความบาดหมาง ไม่มีปัญหาการแย่งชิงทรัพยากรกันเองในหมู่ประชาชน 2. ให้คงไว้ว่าในกรณีที่เจ้าของที่ดินไม่ได้ใช้ประโยชน์ หรือเห็นทิ้งร้างมาเกิน 10 ปี หรือไม่ได้เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมาเกิน 10 ปี ให้ยึดเข้าเป็นของหลวง 3. ให้นำที่ดินที่ยึดมาเหล่านี้มาขาย เพื่อนำเงินเข้าหลวงมาพัฒนาประเทศต่อไป หรืออาจให้ทางราชการใช้ทำประโยชน์แก่ทางราชการเอง 4. ให้มีสำนักจัดการทรัพย์สินที่วางแผนการลงทุน การประสานการพัฒนาที่ดิน การซื้อ-ขายที่ดิน หรือการร่วมทุนเพื่อการพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่ตกเป็นสมบัติของรัฐ สมบัติของเอกชนนั้น จำเป็นต้องล้อตามกิจกรรมสาธารณะด้วย  การมีอาคารและที่ดินอยู่ในใจกลางเมือง แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ไม่ได้เสียภาษี ทิ้งร้างไว้ ทั้งที่ถนนหนทางสาธารณูปโภคต่างๆ ทางรัฐก็จัดหาให้เรียบร้อย อาจถือเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจทางหนึ่งเพราะผู้ที่จะพัฒนาที่ดิน ก็ต้องซื้อในแปลงอื่นห่างไกลออกไปเรื่อยๆ ทำให้เมืองขยายตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด สิ้นเปลืองทรัพยากรของแผ่นดิน  เจ้าของทรัพย์ก็ไม่ถูก "ไฟลนก้น" ก็ปล่อยทิ้งไว้ให้ลูกหลานโดยรัฐไม่ได้รับประโยชน์ตอบแทนใดๆ

ที่มา : https://prachatai.com/journal/2017/10/73886

วันที่ 31 ต.ค. 60