เทียบฟอร์ม รับสร้างบ้าน ยุคค่าแรงแพง ไซต์งานขาดคน ถูกสุด ตร.ม.ละหมื่น

เริ่มจากกลุ่มผู้ประกอบการที่มีทั้งแบบบ้านระดับล่าง-กลาง-บน ที่ใช้ระบบก่อสร้างด้วย "เสา-คาน" สำเร็จรูป "กลุ่มซีคอน" น่าจะเป็นกลุ่มที่ตั้งราคาขายต่อตารางเมตรถูกเป็นอันดับต้น ๆ ของวงการ ปัจจุบันบ้านหลังเล็กสุดของกลุ่มซีคอน ราคาเริ่มต้น 1.4 ล้านบาท มีพื้นที่ใช้สอย 140 ตารางเมตร คิดสะระตะราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 1 หมื่นบาท ถือว่าทำราคาได้สูสีกับผู้รับเหมารายย่อยเกรดดี ขณะที่ "กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์" ทำตลาดบ้านราคากว่า 1-20 ล้านบาท และใช้เทคโนโลยีสร้างบ้านเสา-คานสำเร็จรูปเช่นเดียวกัน แบบบ้านไซซ์เล็กสุด ราคาเริ่มต้น 1.72 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอย 103 ตารางเมตร หรือเฉลี่ยตารางเมตรละ 1.6 หมื่นบาท ส่วนบริษัทรับสร้างบ้านที่เน้นปลูกสร้างด้วยระบบ "หล่อในที่" แบบดั้งเดิมอย่างค่าย "มีนบุรี รับสร้างบ้าน" จากเดิม 3-4 ปีก่อนเคยมีบ้านหลังเล็กสุด ราคา 1.5 ล้านบวกลบนั้น ข้อมูลปัจจุบันบ้านหลังเล็กในงานโฮม บิลเดอร์ฯขยับขึ้นมาเป็น 1.9 ล้านบาท ได้พื้นที่ใช้สอย 130 ตารางเมตร หรือเฉลี่ยตารางเมตรละกว่า 1.4 หมื่นบาท สเป็กวัสดุที่ให้ เช่น หลังคาซีแพคโมเนีย ปูกระเบื้อง ฯลฯ ส่วนกลุ่มที่จับตลาดระดับกลาง-บน ราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป ราคารับสร้างบ้านพบว่าสตาร์ตที่ตารางเมตรละ 2 หมื่นบาทบวกลบ อย่างค่าย "โฟร์พัฒนา"มีแบบบ้านราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท ได้บ้านพื้นที่ใช้สอย 250 ตารางเมตร หรือตารางเมตรละ 2 หมื่นบาท สเป็กวัสดุ อาทิ หลังคาซีแพคโมเนีย ปูพื้นไม้ลามิเนต หน้าต่างยูพีวีซี ฯลฯ อีกค่าย "มาสเตอร์แปลน 101" ทำตลาดเฉพาะรับสร้างบ้านหรู ราคาเริ่มต้นหลังละ 10 ล้านบาท ได้พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 400 ตารางเมตร หรือเฉลี่ยตารางเมตรละ 2.5 หมื่นบาท ส่วนแบบบ้านหลังใหญ่ของค่ายนี้ต้องบอกเข้าขั้น "คฤหาสน์" กันเลยทีเดียว โดยราคาแพงสุดที่สำรวจเจอในงานคือราคา 101 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอยประมาณ 2,700 ตารางเมตรบวกลบ หรือเฉลี่ยตารางเมตรละ 3.75 หมื่นบาท ทำให้ต้องตามไปดูว่าสเป็กวัสดุจะให้แบบไหน พบว่าวัสดุได้เหมือนกัน อาทิ ปูพื้นด้วยไม้จริง โครงหลังคาเหล็ก ฉนวนกันความร้อนตราช้าง หน้าต่างยูพีวีซีเกรดเอ สุขภัณฑ์ยี่ห้อโคห์เลอร์ ฯลฯ จากการสอบถามไปยังผู้ประกอบการหลายค่ายให้ข้อมูลสอดคล้องกันว่า จากผลกระทบต้นทุนรับสร้างบ้านสูงขึ้นแทบทุกตัว ตั้งแต่ค่าแรง 300 บาททั่วประเทศ ปัญหาแรงงานขาดแคลน ต้นทุนวัสดุขึ้นราคาไม่หยุด ราคาน้ำมันแพงกระทบชิ่งต่อต้นทุนทางตรงคือค่าขนส่ง กับต้นทุนทางอ้อมที่บวกมาในรายการสินค้าเกี่ยวเนื่องกับรับสร้างบ้านทำให้แนวโน้มปีหน้า ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่ถึง 4 เดือน คาดการณ์ว่าราคาบ้านมีแนวโน้มขยับขึ้นอีก 3-5% ตามอัตราเงินเฟ้อและต้นทุนค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น ผู้บริโภคคงต้องวางแผนเตรียมตัวเรื่องเงินให้ดี