-
กลับไปหน้าแรกข่าว  พบคนไทยเมินบ้านผู้สูงวัย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้วอนรัฐออกก.ม.คุมแบบให้โดนใจ
22 ก.พ. 2017

พบคนไทยเมินบ้านผู้สูงวัย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้วอนรัฐออกก.ม.คุมแบบให้โดนใจ

นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เว็บไซต์ซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า (ปี 2573) ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็น 17 ล้านคน จาก 11 ล้านคนในปี 2559 และถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีสัดส่วนของประชากรผู้สูงวัยอายุมากกว่า 60 ปี มากที่สุดในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สาเหตุหลักที่ทำให้สังคมไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุคือ อัตราการเจริญพันธุ์ที่ลดลงอย่างน่าตกใจ จาก 6.1% ในปี 2508 เหลือเพียง 1.5% ในปี 2558 เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่มีการศึกษาและมีฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น รวมถึงผลสำเร็จของโครงการวางแผนครอบครัวที่รัฐบาลริเริ่มในปี 2513 แต่เมื่อสำรวจผู้ที่อยู่ระหว่างหาซื้อและผู้ซื้อที่อยู่อาศัยรวม 661 คน (แบ่งเป็นกลุ่มอายุ 21-39 ปี สัดส่วน 43%, กลุ่มอายุ 40-59 ปี สัดส่วน 40%, และกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป 43%) พบว่า มีเพียง 37% เท่านั้นที่กำลังเริ่มมองหาหรือเคยมองหาสถานที่พักอาศัยที่เหมาะสำหรับผู้ สูงวัยหลังเกษียณ โดยมีลักษณะที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุ และมีสถานที่ดูแลผู้สูงวัยใกล้เคียงกับบริเวณที่พักอาศัย ในทางกลับกันผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ไม่รู้สึกว่าเรื่องนี้มีความสำคัญ เช่นเดียวกับประชากรในประเทศสิงคโปร์ที่ไม่เป็นความสำคัญในเรื่องดังกล่าว ซึ่งหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ อาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัยในอนาคตได้ ทางรัฐบาลประเทศสิงคโปร์เองจึงมีแนวคิดให้ผู้สูงอายุอยู่อาศัยในที่เดิม โดยได้มีการจัดสรรที่ดินและพัฒนารูปแบบบ้านให้เหมาะสมสำหรับผู้สูงวัย ปัจจุบันองค์การอาคารและสิ่งก่อสร้าง แห่งประเทศสิงคโปร์ได้มีการปรับเปลี่ยน ประมวลการเข้าถึงอาคารโดยปราศจาก อุปสรรค ซึ่งออกเมื่อปี 2533 ให้เป็น “Code on Accessibility in the Built Environment 2013” ซึ่งเป็นข้อบังคับสำหรับการสร้างอาคารและสิ่งก่อสร้าง เพื่อเตรียมความพร้อม สำหรับสังคมผู้สูงวัย ให้พวกเขาสามารถเข้าถึงอาคาร และสิ่งก่อสร้างต่างๆได้อย่างปลอดภัย

ที่มา : http://www.thansettakij.com/2017/02/22/130987

วันที่ 22 ก.พ. 60