-
กลับไปหน้าแรกข่าว  ดร.โสภณ พรโชคชัย แฉ ศูนย์สิริกิติ์: ผังเมืองอ้างเบื้องสูง/ช่วยเสี่ยเจริญ?
4 ก.พ. 2017

ดร.โสภณ พรโชคชัย แฉ ศูนย์สิริกิติ์: ผังเมืองอ้างเบื้องสูง/ช่วยเสี่ยเจริญ?

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย วิเคราะห์ถึงความ "แปลกๆ" ของการผังเมืองในกรณีที่เกี่ยวกับศูนย์สิริกิติ์ที่ดูคล้ายการ "แอบอ้างเบื้องสูง" และเอื้อประโยชน์ในทางธุรกิจ โดยพิจารณาจากเส้นเวลาหรือ Timeline สำหรับข้ออ้างของผังเมืองในการออกข้อกำหนดนี้ก็คือการมีสวนเบญจกิติ ก็ควรทำให้บริเวณโดยรอบไม่สามารถสร้างสูงได้ เพื่อให้สวนดูสง่างาม ทั้งที่เป็นที่ดินอยู่ใจกลางเมือง ราคาแสนแพง แต่ไม่ให้สร้างสูง ทั้งที่โดยรอบสวนเบญจกิติ ก็มีการสร้างตึกสูงมากมายอยู่แล้ว และไม่เห็นเป็นการทำลายทัศนียภาพของสวนเสียที่ไหน การออกข้อกำหนดผังเมืองแบบนี้กลายเป็นการ "เข้าทาง" กับ NCC ทำให้ NCC ไม่ต้องปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้ โดยอาศัยข้ออ้างด้านผังเมืองหรือไม่ ที่สำคัญการออกข้อกำหนดนี้ถือเป็นการอ้างเบื้องสูงหรือไม่ การห้ามสร้างรอบสถานที่สำคัญ เช่น วังหลวง หรืออนุสาวรีย์สำคัญ เป็นสิ่งที่เราท่านเข้าใจได้ แต่การห้ามสร้างรอบสวนเป็นสิ่งที่น่าฉงนเป็นอย่างยิ่ง การกำหนดห้ามก่อสร้างสูงโดยรอบสวนเบญจกิติ (เพื่อ "เสี่ยเจริญ"?) เป็นการฝืนความจริงที่มีตึกโดยรอบอยู่แล้ว และก็ไม่ได้ทำลาย ทัศนียภาพของสวน (ตามที่ดูเหมือน "อ้างเบื้องสูง") การสร้างสวนเบญจกิติขึ้นมานี้เป็นสิ่งที่ดี แต่ควรส่งเสริมการใช้มากกว่านี้ แต่ทุกวันนี้มีคนใช้สอยในวันธรรมดา 500 คน และในวันหยุดราชการ 1,000 คนโดยประมาณ ถ้าผังเมืองไทยอนุญาตมีการก่อสร้างโดยรอบแบบเดียวกับสวน Central Park ในนครนิวยอร์ก ก็คงทำให้มีคนมาใช้บริการมากขึ้น สวนก็จะมีประโยชน์มากขึ้น การแช่แข็งไม่ให้สร้างตึกสูงบริเวณโรงงานยาสูบ โดยให้สร้างได้ไม่เกิน 23 เมตร ต่างจากบริเวณอื่นนั้น ทำให้มูลค่าที่ดินลดลง โรงงานยาสูบในส่วนที่เหลือมีพื้นที่ประมาณ 400 ไร่ ถ้าทำให้เป็นพื้นที่พาณิชยกรรม สามารถสร้างตึกสูงได้ โดยทำเป็นศูนย์ธุรกิจ ให้ธุรกิจทั้งหลายมารวมกันสร้างอาคารสำนักงานในพื้นที่นี้เพื่อสะดวกในการ ติดต่อธุรกิจต่าง ๆ ทำให้เมืองมีประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมกับกับการเชื่อมต่อกับทางด่วน รถไฟฟ้า BTS และ MRT อยู่แล้ว รวมทั้งรถไฟฟ้าสายอื่นในอนาคต ก็จะทำให้ย่านนี้เจริญขึ้น ที่ดิน 400 ไร่นี้ หากแบ่งมาทำถนนและสาธารณูปโภค สวน หรืออื่นๆ สัก 40% ก็จะเหลือ 240 ไร่สุทธิ ราคาเฉลี่ยน่าจะเป็นเงินตารางวาละ 1.5 ล้านบาท หรือไร่ละ 600 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 144,000 ล้านบาท หากรัฐบาลนำมาพัฒนาในเชิงพาณิชย์ สร้าง CBD ใน CBD ก็จะได้เงินเข้าหลวงนำมาพัฒนาประเทศนับแสนๆ ล้านบาทข้างต้น และมีคนมาใช้สอยสวนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เป็นความคุ้มค่าอย่างยิ่งต่อสาธารณชน แต่ผังเมืองไทยกลับแช่แข็งพื้นที่นี้ไม่ให้พัฒนา ไม่รู้จะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทพัฒนาที่ดินเอกชนรายใหญ่ที่ประมูลที่ ได้ในบริเวณใกล้เคียงได้ประโยชน์ โดยไม่มีการพัฒนาที่ดินโรงงานยาสูบมาเป็น "หอกข้างแคร่" หรือไม่ การผังเมืองที่ดูคล้ายเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนยักษ์ ใหญ่ข้างต้นนี้ จึงยังทำให้ประเทศชาติเสียทรัพยากรนับแสนๆ ล้านบาท เราควรรื้อและปฏิวัติการผังเมืองของไทยใหม่หรือไม่

ที่มา : http://oknation.nationtv.tv/blog/New-World/2017/02/04/entry-1

วันที่ 4 ก.พ. 60