-
กลับไปหน้าแรกข่าว  ผังเมืองช่างใจดีกับ "เสี่ยเจริญ" จริงๆ เลย
31 ม.ค. 2017

ผังเมืองช่างใจดีกับ "เสี่ยเจริญ" จริงๆ เลย

 เมื่อเร็วๆ นี้มีข่าวที่น่าสนใจว่า ขณะนี้ บจก.ทีซีซี เวิลด์ ในเครือทีซีซีแลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาที่ดินของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี กำลังลงทุนก่อสร้างโครงการนวมินทร์ เฟส 1 บนที่ดินผืนใหญ่กว่า 100 ไร่ สองฝั่งถนน บริเวณข้างและตรงข้ามโครงการนวมินทร์ซิตี้ อเวนิว โดยด้านหน้าของที่ดินทั้งสองแปลงนี้ติดถนนประเสริฐมนูกิจ หน้ากว้าง 300-400 เมตร และมีความลึกนับร้อยเมตร โดยจะพัฒนาเป็นอาคารศูนย์การประชุมและแสดงสินค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม 200 ห้อง และที่จอดรถกว่า 2,000 คัน และขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างงานฐานรากและพื้นชั้นใต้ดิน แต่ตอนนี้ท่านได้ศูนย์ประชุมสิริกิติ์แล้ว ยังจะคิดสร้างต่อหรือไม่ก็ไม่รู้   ในข่าวข้างต้นยังมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า "ทีซีซีแลนด์กลับมาพัฒนาโครงการเก่าอีกครั้ง เนื่องจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีการปรับสีผังเมืองเมื่อปี 2556 ทำให้ทำเลแถบบริเวณนี้สามารถพัฒนาและใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น"  จึงเกิดความสนใจขึ้นมาว่า นี่อาจเป็นกรณีศึกษาที่เอื้อประโยชน์ต่อนายทุนหรือไม่ แต่ถึงแม้จะใช่ ก็ไม่ได้ขัดผลประโยชน์อะไรกับดร.โสภณ  และก็ไม่ได้เสียหายอะไรกับการพัฒนาเมืองโดยรวมนัก เพียงแต่ในช่วงจัดทำผังเมืองรวมเมื่อก่อนประกาศใช้ในปี 2556 ประชาชนทั่วไปได้ไปร้องเรียน ขอแก้สีผังเมืองนับพันๆ ราย แต่ได้รับการแก้ไขเพียง 3 ราย ไม่ทราบว่ากรณีนี้เป็นหนึ่งในสามรายหรือไม่ ในผังเมืองเดิมฉบับปี 2549 ระบุไว้ว่าในพื้นที่ตั้งโครงการนี้เป็นที่ดินประเภท ย.4 ให้ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยซึ่งไม่ใช่อาคารขนาดใหญ่ อาคารสูง หรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ เป็นต้น สำหรับการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่น ให้ใช้ได้ไม่เกินร้อยละสิบของที่ดินประเภทนี้ในแต่ละบริเวณ ทั้งนี้ที่ดินประเภทนี้ ห้ามใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการตามที่กำหนด นอกจากนี้ยังระบุว่า การใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทนี้ให้มีอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน ไม่เกิน 3:1 มีอัตราส่วนของที่ว่างต่อพื้นที่อาคารรวมไม่น้อยกว่าร้อยละสิบ โดยสรุปแล้วตามผังเมืองรวม พ.ศ.2549 ที่ดินแปลงนี้เอาไปทำโรงแรมไม่ได้ และก่อสร้างได้เพียง 3 เท่าของขนาดที่ดิน ซึ่งด้อยกว่าปัจจุบัน ตามผังเมืองใหม่นี้ (ผังเมือง กทม. 2556) อยู่ๆ ก็เปลี่ยนที่ดินว่างเปล่าบริเวณนี้ ซึ่งรายล้อมไปด้วยบ้านเดี่ยวที่มีความหนาแน่นน้อยตามแบบที่อยู่อาศัยในย่าน ชานเมือง เปลี่ยนเป็นที่ดินประเภท พ.3 หรือที่ดินประเภทพาณิชยกรรม แต่ห้ามใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการตามที่กำหนด การใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทนี้ มีอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดินไม่เกิน 7:1 มีอัตราส่วนของที่ว่างต่อพื้นที่อาคารรวมไม่น้อยกว่าร้อยละสี่จุดห้า และให้มีพื้นที่น้ำซึมผ่านได้เพื่อปลูกต้นไม้ไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบของ พื้นที่ว่าง โดยสรุปแล้วอยู่ ๆ ที่ดินแปลงนี้ก็ได้อานิสงส์ก่อสร้างได้ถึง 7 เท่าของที่ดิน มีที่ว่างรอบอาคารเหลือ 4.5% จากเดิม 10% และสามารถสร้างอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ได้โดยไม่ติดข้อจำกัด จะแก้สีผังเมืองเพื่อใครหรือไม่อย่างไร ดร.โสภณ คงไม่ไปเกี่ยวด้วย  เอาเป็นว่าเอกชนรายใดจะขอแก้ ซึ่งหากเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ก็ควรแก้ให้เขา และที่ผ่านมามีเจ้าของที่ดินมากหลายนับพันๆ รายมาขอให้กรุงเทพมหานครแก้ แต่ไม่ได้รับการแก้ไข หรือพวกเขาไม่ใหญ่พอหรืออย่างไร แล้วอย่างนี้ การวางผังเมืองก็เท่ากับเป็นการวางแบบ "Top-Down" คือจากบนลงล่าง เป็นแบบ "เจ้าขุนมูลนาย" โดยไม่ฟังเสียงทัดทานของประชาชนหรือไม่ แล้วอย่างนี้ประชาชนที่ไหนจะได้มีโอกาสร่วมวางผังเมืองตามปณิธานที่ตั้ง (ส่งเดช) กันไว้ ในความเป็นจริง หากบริเวณนั้นจะเป็นศูนย์การประชุมระดับชาติอันที่ 4 ต่อจากศูนย์สิริกิติ์ อิมแพค และไบเทค ทางราชการน่าจะพิจารณาเชื่อมต่อทางด่วนเอกมัย-รามอินทราซึ่งห่างกันแค่ 2 กิโลเมตร เข้าให้ด้วย โดยประสานให้เจ้าของที่ดินออกเงินค่าก่อสร้าง จะได้ไม่สร้างภาระแก่ประชาชนโดยรอบ ที่ศูนย์ประชุมแห่งนี้ทำให้แถวนั้นรถติดมหาศาล และจะกลายเป็นจุดขายของโครงการของเจ้าสัวด้วย

ที่มา : http://thaisarn.net/single.php?news=588f1df4cf4c2bad2c393a1d

วันที่ 30 ม.ค. 60