-
กลับไปหน้าแรกข่าว  รู้จัก‘ค่าความนิยม’ไหม? / โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย
3 พ.ย. 2016

รู้จัก‘ค่าความนิยม’ไหม? / โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย

“ค่าความนิยม” หรือภาษาอังกฤษใช้คำว่า Goodwill ก่อน ในแง่หนึ่งในทางการบัญชี ค่าความนิยมเป็นส่วนต่างของมูลค่ากิจการตามบัญชีกับมูลค่าที่ซื้อขายกันจริง โดยมากบริษัทที่ดำเนินธุรกิจมาเป็นระยะเวลานานและมีผลประกอบการที่ดี เมื่อขายกิจการก็ย่อมขายได้ในราคาที่สูงกว่ามูลค่าตามบัญชี เนื่องจากภาพลักษณ์ที่ดีเป็น premium ของมูลค่ากิจการนั่นเอง อาจกล่าวได้ว่าค่าความนิยมขึ้นอยู่กับ 1.ชื่อเสียงของผู้ประกอบการหรือกิจการนั้นๆ 2.ความจงรักภักดี เช่น เวลาเราไปซื้อโจ๊ก ข้าวแกง หรือหมูตามเขียงหมู ก็มักจะซื้อร้านที่เราซื้อประจำ ไม่ “นอกใจ” ไปซื้อร้านอื่น เป็นต้น 3.คุณภาพสินค้า ถ้าไม่มีคุณภาพคนก็ไม่ไปใช้บริการ (ซ้ำ) เป็นต้น ชื่อเสียงก็ไม่ขจรขจายนั่นเอง 4.ทำเล ในวงการประเมินค่าทรัพย์สิน ทำเลเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้สอดคล้องกับเรื่องอสังหาริมทรัพย์ จึงยกตัวอย่างร้านตัดผมประเภทตัดผมชาย (Barber) บริเวณถนนนนทรีและถนนสาธุประดิษฐ์ ปรากฏว่ามีร้านตัดผมในย่านนั้นที่พอเปรียบเทียบกันได้ราว 8 ร้าน ปรกติช่างคนหนึ่งอาจตัดผมในวันธรรมดาได้เฉลี่ย 8 คน และในวันหยุด 14 คน หากให้มีวันหยุดเดือนละ 2-3 วัน จะได้ 68 หัวต่อช่าง 1 คน แต่ร้านยอดนิยมจะได้วันละประมาณ 100 หัวต่อช่าง 1 คน มีรายได้แตกต่างกันประมาณ 47% แสดงได้ว่าค่าความนิยมของร้านยอดนิยมนั้นดีกว่าร้านทั่วไปอยู่พอสมควร สำหรับร้านที่มีทำเลดีก็มีรายได้ค่อนข้างสูง เพียงแต่ต่ำกว่าร้านยอดนิยมราว 10% เท่านั้น ประเด็นสำคัญคือ ต้องแปลงค่าความนิยมจากบุคคล (Personal Goodwill) เป็นค่าความนิยมขององค์กร (Corporate Goodwill) เช่น กรณีโค้ก แม้ผู้บริหารทั้งหลายจะไม่อยู่ แต่ยังมีค่าความนิยมองค์กรอยู่ ถ้าผู้บริหารของบริษัทพัฒนาที่ดินในตลาดหลักทรัพย์ฯ “ไม่อยู่” มูลค่าของค่าความนิยมก็อาจตกต่ำลงไปก็ได้ เป็นต้น

ที่มา : http://www.lokwannee.com/web2013/?p=244333

วันที่ 3 พ.ย. 59