-
กลับไปหน้าแรกข่าว  ฟองสบู่อสังหาฯเกิดชัดเจน
5 ธ.ค. 2018

ฟองสบู่อสังหาฯเกิดชัดเจน

เมื่อเร็วๆนี้ ดร.โสภณ ในฐานะประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้จัดงานสัมมนาสำหรับผู้บริหารเรื่อง “ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ : จุดเริ่มต้นของจุดจบ” ณ สำนักงานใหญ่ของศูนย์ข้อมูลฯ ถนนนนทรี ยานนาวา กรุงเทพมหานคร ดร.โสภณ ได้เสนอให้เห็นว่า ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2561 มีโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้น 339 โครงการ รวมจำนวนหน่วยสูงถึง 99,938 หน่วย รวมมูลค่า 429,955 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินหน่วยละ 4.3 ล้านบาท ซึ่งนับว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากแต่เดิมราคาที่อยู่อาศัยที่ขายเฉลี่ยในแต่ละปีเป็นเงินไม่เกิน 4 ล้านบาทเท่านั้น โดยนัยนี้สินค้าราคาแพงเปิดขายมากกว่าสินค้าราคาถูก เพราะผู้มีรายได้น้อยไม่มีเงินซื้อบ้านมากนัก อย่างไรก็ตาม อาจประมาณการได้ว่าในกรณีทั้งปี 2561 จะมีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ถึง 410 โครงการ หรือเท่าๆกับปี 2560 แต่มีจำนวนหน่วยมากกว่า คือจะเปิด 121,974 หน่วย หรือเพิ่มขึ้น 7% ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และที่สำคัญที่สุดก็คือ มูลค่าการพัฒนาในปี 2561 น่าจะสูงถึง 524,760 ล้านบาท หรือสูงกว่าปีที่แล้วถึง 19% ซึ่งนับว่าเป็นการพัฒนาที่มีมูลค่าสูงสุดตั้งแต่ตั้งศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยมาสำรวจเมื่อ 24 ปีก่อน (ตั้งแต่การสำรวจครั้งแรกในปี พ.ศ. 2537) ดังนั้น จึงถือเป็นการยืนยันได้ว่าได้เกิดฟองสบู่ขึ้นแล้วในวงการอสังหาริมทรัพย์ของไทย อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าฟองสบู่แตก เพิ่งเกิดขึ้นเท่านั้น จึงยังไม่แตก ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์มักจะแตกหลังจากการสะสมของฟองสบู่เป็นระยะเวลาหนึ่ง เช่น ปี 2561 เกิดฟองสบู่ และอาจเกิดต่อเนื่องในปี 2562 และ 2663 ดังนั้น ในปี 2564 น่าจะเกิดภาวะฟองสบู่แตกเพราะการสะสมของสินค้าที่ล้นเกิน อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยพบว่า ในปี 2560 สินค้าที่อยู่อาศัยได้รับการซื้อโดยชาวต่างชาติประมาณ 20% โดยตลาดที่อยู่อาศัยที่ซื้อขายในปี 2560 มีมูลค่าการขายโดยรวม 576,396 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 113,280 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการซื้อขายในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ที่มา : www.lokwannee.com/web2013/?p=334902