-
กลับไปหน้าแรกข่าว  ศูนย์วิจัยอสังหาฯ จับตา สัญญาณ ‘ฟองสบู่’ ปีหน้า
18 ต.ค. 2017

ศูนย์วิจัยอสังหาฯ จับตา สัญญาณ ‘ฟองสบู่’ ปีหน้า

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหารศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส สรุปภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยปี 2560 ว่า หากพิจารณาภาพรวมใน 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน) เปรียบเทียบกับ 9 เดือนแรกปี 2559 มีโครงการที่เปิดใหม่รวม 307 โครงการ (ลดลง -11%) แต่มีจำนวนหน่วยขายรวม 88,758 หน่วย (เพิ่มขึ้นประมาณ 12%) มูลค่าโครงการรวม 317,955 ล้านบาท (เพิ่ม 18.7%) และมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มจาก 3.423 ล้านบาทเป็น 3.582 ล้านบาท (6%) โดยกลุ่มที่อยู่อาศัยที่เปิดขายมากสุด คืออาคารชุดจำนวน 51,429 หน่วย (58%) รองลงมา คือ ทาวน์เฮาส์ 26,606 หน่วย (30%) และอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 7,105 หน่วย (8%)  สำหรับการซื้อขายบ้านขณะนี้เกิดขึ้นมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการลงทุนทางอื่นมีข้อจำกัด จึงนำเงินมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น หากบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ออกหุ้นกู้เพื่อขยายกิจการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพราะยังมีคนซื้อเก็งกำไรกันมากๆ ก็อาจทำให้บริษัทไม่สามารถจ่ายคืนหุ้นกู้ได้ ทางราชการอาจต้องยื่นมือเข้ามาลดความเสี่ยงของบริษัทมหาชน ด้วยการระดมกระจาย ความเสี่ยงของบริษัทใหญ่ๆ ให้ประชาชนเข้าซื้อที่อยู่อาศัยสิ่งรัฐบาลควรดำเนินการในภาวะที่อาจมีความสุ่มเสี่ยงได้แก่ 1.การควบคุมอุปทานที่อยู่อาศัยไม่ให้เกิดขึ้นตามกระแสที่บริษัทมหาชนต้องมีการเติบโตอย่างไม่มีวันหยุด 2.การควบคุมการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรของต่างชาติ เช่นฮ่องกงในปัจจุบัน ชาวต่างชาติต้องเสียภาษีซื้อ 15% และเสียค่าธรรมเนียมโอนต่างหากอีก 15% รวม 30% หรือสูงกว่าราคาตลาด 30% จึงจะสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงที่ราคา 100%และ 3.ควบคุมราคาขายของผู้ประ กอบการโดยแจกแจงต้นทุนที่ควรจะเป็นอย่างชัดเจน ซึ่งขณะนี้บริษัทมหาชนมีกำไรสุทธิในการพัฒนาที่ดินสูงมาก หากสามารถลดการแข่งขันเสรีด้วยข้อมูลที่เป็นจริงมากขึ้นก็จะทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยมีความมั่นคงกว่าในปัจจุบัน

ที่มา : http://daily.bangkokbiznews.com/detail/312196

วันที่ 18 ต.ค. 60